กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 30 พ.ค.2568

30 พ.ค. 2025

Day โครงสร้างยังคงเป็นเทรดนขาลง Choch Day 63.980 วานนี้ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงในช่วงบ่าย – เช้าวันนี้ (ตามคาด)หลังจากขึ้นมาทดสอบ แนว Supply H4 และ QM zone ในช่วงตลาดเปิด-เที่ยง ประกอบกับเกิด Hamonic Butterfly Pattern ส่งผลให้ราคาปรับตัวร่วงลงแรงตลอดทั้งวัน ตาม USD(DXY) หลังความกังวลในเรื่องสงครามการค้า อาจกลับมาทันทีที่มีการอุทรณ์ คำสั่งศาลการค้าระหว่างประเทศ CIT ซึ่งส่งผลให้ นโยบายภาษีทรัมป์ที่ ประกาศในวันที่ 2 เม.ย. (10%นำเข้า + ภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs)กับ 57 ประเทศคู่ค้า) ยังคงมีผลต่อเนื่องจนกว่าคำสั่งศาลขั้นสูงจะพิจารณาหลังวันที่ 9 มิ.ย. ราคาน้ำมันวานนี้ปิดแท่ง Bearish with Half Shadow

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ WTI งวดส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดที่  60.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อาร์เรล ลดลง 1.5%

ความกังวลสงครามการค้ายังคงอยู่ หลังมีคำสั่งอุทรณ์คำตัดสินนโยบาภาษีทรัมป์ … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

  • ศาลอุทธรณ์สหรัฐ สั่งระงับคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐ(CIT) ที่สั่งให้ยกเลิกมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นการชั่วคราว ในระหว่างกระบวนการพิจารณาคำร้องขออุทธรณ์ของรัฐบาลเพื่อระงับคำสั่งของศาลการค้าฯ ออกไปก่อน ส่งผลกดดันราคาน้ำมัน นักลงทุนเกรงสงครามการค้ากลับมาซึ่งยังคงส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจเหมือนเช่นเดิม
  • Kevin Hassett ที่ปรีกษาธรรมเนียบขาว (นักเศรษฐศาสตร์) พร้อมยื่น ฎีกา ต่อหากคำสั่งอุทรณ์ ถึงที่สุด ณ ขณะนี้มีข้อตกลงทางการค้า อีก 3 ฉบับที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมกับอีกหลายๆข้อตกลงอีกหลายข้อที่จะตามมา
  • ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า นโยบายภาษีทรัมป์ สร้างความเสียหายให้กับบริษัทต่างๆ มากกว่า 34,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งจากยอดขายที่หายไป และต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ทั้ง Apple, Ford, Porsche และ Sony ต่างต้องปรับลดหรือระงับคาดการณ์กำไร และไม่สามารถประมาณการต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้
  • หลัง รัฐบาลสหรัฐยื่นอุทรณ์ ทรัมป์ เรียกตัวเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้าพบเพื่อตำหนิ การที่ FED ยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ถือเป็น”ความผิดพลาด” ของ FED ที่จะทำให้ภาคเศรษฐกิจสหรัฐต้องเสียหาย
  • แมรี่ ดาลี ประธานFED สาขาซานฟรานซิสโก ออกมาเผยหลังการพบปะระหว่าง เจอโรม และทรัมป์ เผยว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมี.ค. แต่ในขณะนี้ควรคงอัตราดอกเบี้ยไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมาย 2% โดยระบุว่า “พร้อมระบุว่า เฟดจำเป็นต้องรักษานโยบายการเงินในระดับ “ค่อนข้างเข้มงวด” เพื่อให้บรรลุเสถียรภาพด้านราคา
  • ประกาศตัวเลข Prelim GDP -0.2% ไตรมาศแรก ปี 2025 ออกมาดีกว่าประกาศคร้งแรก(Advance GDP) -0.3% แต่ยังคงถือว่าอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้การใช้จ่ายภายในประเทศที่ลดลง (ทั้งภาคครัวเรือนและภาครัฐ) ในขณะที่ การนำเข้าสูงในช่วงไตรมาศแรก เนื่องจากหลายบริษัทรีบนำเข้าสินค้า มาตุนไว้ก่อนการประกาศภาษีนำเข้าของทรัมป์ 2 เม.ย.
  • บริษัทเครื่องบิน Boing ในสหรัฐสามารถกลับมาส่งมอบเครื่องบินให้กับประเทศจีนได้เช่นเดิมในเดือนหน้า หลังการเจรจากการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน สิ้นสุดลง จีนเสียภาษีนำเข้าสินค้าไปยังสหรัฐ 30% ในขณะที่สหรัฐเสียภาษีนำเข้าไปจีน 10%

OPEC+ กลับลำ อาจเพิ่มการผลิต วันละ 411,000 ต่อเนื่องในเดือน ก.ค.

  • ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 8 ชาติในกลุ่มพันธมิตร OPEC+ อาจเพิ่มกำลังผลิตสูงถึง 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นการทยอยยกเลิกมาตรการปรับลดการผลิตโดยสมัครใจอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดกำลังรอการตัดสินใจครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับการผลิตในเดือนก.ค. โดย 8 ประเทศดังกล่าว จะทบทวนสถานการณ์ตลาดและหารือเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตในวันที่ 31 พ.ค.นี้

การเจรจาการค้า สหรัฐ-จีน อาจหยุดชะงัก … ส่งผลต่อราคาน้ำมัน

  • 29 พ.ค. สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน “หยุดชะงักเล็กน้อย” และระบุว่าการมีส่วนร่วมโดยตรงระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อาจจำเป็นเพื่อขับเคลื่อนการเจรจาให้ก้าวหน้า ทั้งนี้ยังคงไม่มีการเจรจาใดๆเพิ่มเติมหลังจากที่ได้ข้อสรุป ในวันที่ 14 พ.ค. สหรัฐลดภาษีสินค้าจากจีนเหลือ 30% ,จีนลดภาษีสินค้าสหรัฐ เหลือ 10% ซึง่จะเริ่มต้นหลังวันที่ 14 พ.ค. อีก 90 วัน

H4 /H1 : ราคาน้ำมันยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Sideway ระหว่าง แนวต้าน Supply H4 และแนวรับ Demand H4 ใน TF H1 ปรากฎ Hamonic Shark Pttn มีโอกาสกับขึ้นไปทดสอบ 61.8% ของการเคลื่อนที่ลงก่อนหน้า ที่กรอบ 61.800-61.498

แนะนำ

  • เปิดสถานขะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 61.609-61.940 / SL 62.200 เพื่อทำกำไร 61.378/61.161/60.923/60.410

นวรับ 60.048/58.976/57.703

แนวต้าน 63.525/63.980/64.833

ปฎิทินเศรษฐกิจ 30 พ.ค. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว

  • วานนี้ EIA ประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมัน(แต่ละชนิดคงคลัง)
    – นำ้มันดิบคลัง ลดลงเหลือ 440.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีในช่วงเวลาเดียวกันประมาณ 6% (ทั้งนี้อาจมาจากสัปดาห์การท่องเทียวในสหรัฐ)
    – น้ำมันเบนซิน ลดลงเหลือ 223.1 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีประมาณ 3%
    – น้ำมันดีเซลและน้ำมันทำความร้อน (Distillate) ลดลงเหลือ 103.4 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีถึง 17%
  • การผลิตน้ำมันดิบคงที่ 13.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน / ส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน / นำเข้าน้ำมันดิบ เพิมขึ้น 6.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปริมาณนำเข้ามากกว่าส่งออกน้ำมันดิบ)สะท้อนภาคเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแรงอยู่
  • ติดตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค หากออกมาดีตามคาดการณ์ หรือมากกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

โดย Trin Anuwattanawong