ราคาทองคำและโลหะมีค่าทรงตัว ขณะนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าสหรัฐ–จีน


ภาพรวมตลาดโลหะมีค่าในเอเชียเช้าวันจันทร์

ราคาทองคำเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน โดยราคาทองคำสปอตอยู่ที่ $3,310.61/ออนซ์ ขณะที่สัญญาล่วงหน้าสำหรับเดือนสิงหาคมลดลงเล็กน้อยที่ $3,330.65/ออนซ์

แม้ว่าทองคำจะยังไม่ได้แรงหนุนชัดเจนจากตลาด แต่ยังคงได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะในภาวะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงมีอยู่


ดัชนีดอลลาร์และการตอบสนองของนักลงทุน

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในการซื้อขายในเอเชีย ซึ่งส่งผลดีต่อโลหะมีค่าในระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนยังคงมีความระมัดระวังและเลือกเข้าถือทองคำเป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยง

ขณะเดียวกัน ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ก่อน อาจทำให้เฟดมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาด ส่งผลให้แนวโน้มราคาทองคำอยู่ในภาวะ "ทรงตัว" มากกว่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงที่ชัดเจนในระยะสั้น


แพลทินัม: จุดเด่นที่น่าจับตามอง

ราคาแพลทินัมปรับตัวขึ้นกว่า 2% และแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ $1,194.85/ออนซ์ ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่เริ่มมีสัญญาณตึงตัว โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นผู้ใช้รายใหญ่

หากพิจารณาด้านเทคนิค การทะลุระดับ $1,100 ต่อออนซ์ ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกสำหรับนักเก็งกำไรระยะกลาง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังต้องพิจารณาจากข้อมูลเพิ่มเติมในฝั่งอุปสงค์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกประกอบ


ราคาทองแดงสะท้อนความอ่อนไหวของเศรษฐกิจจีน

ทองแดงเป็นอีกหนึ่งโลหะที่มีความสำคัญในตลาดอุตสาหกรรม โดยล่าสุดราคาทรงตัวหลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนในเดือนพฤษภาคมออกมาไม่สดใส การนำเข้าทองแดงของจีนลดลงถึง 18% จากเดือนเมษายน ซึ่งสะท้อนความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ภายในประเทศ

  • สัญญาทองแดงลอนดอนขยับขึ้นเล็กน้อยที่ $9,698.70/ตัน

  • ส่วนสัญญาทองแดงสหรัฐฯ ยืนราคาที่ $4.8508/ปอนด์

แม้ว่าราคาโดยรวมยังคงอยู่ในระดับสูง แต่แรงกดดันจากภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจยังคงมีผลต่อแนวโน้มในระยะสั้นถึงกลาง


 มุมมองเชิงวิเคราะห์: ทองคำ–แพลทินัม–ทองแดงในภาพรวม

ตลาดโลหะมีค่าขณะนี้อยู่ในช่วง “รอดูท่าที” ของหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น...

  • ผลการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่

  • การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์

  • ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่ออัตราดอกเบี้ย

  • สถานการณ์เศรษฐกิจจีนและดัชนีการบริโภคภายในประเทศ

สำหรับนักลงทุนที่เทรด Forex หรือโลหะมีค่า การประเมินสถานการณ์โดยรอบจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนการเปิดสถานะใหม่


✅ คำแนะนำจากมุมมองกลาง

  • ทองคำยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะ “Safe Haven” แต่ควรจับตาท่าทีของ Fed ต่อเงินเฟ้อ

  • แพลทินัมดูมีแรงหนุนชัดเจนจากฝั่งอุปทาน แต่ต้องระวังแรงขายจากนักเก็งกำไรหากไม่มีข้อมูลใหม่สนับสนุน

  • ทองแดงอาจยังไม่ใช่จังหวะเข้าซื้อ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานฝั่งจีนยังไม่มั่นคง

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

ราคาทองคำเคลื่อนไหวตามปัจจัยอะไรบ้าง?
ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed), ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ, ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความต้องการจากภาคอุตสาหกรรมและนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลก

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนส่งผลต่อราคาทองคำอย่างไร?
เมื่อเกิดความตึงเครียด ราคาทองคำมักพุ่งขึ้นเพราะนักลงทุนมองหา "สินทรัพย์ปลอดภัย" แต่หากการเจรจาให้ผลในทางบวก อาจทำให้ทองคำปรับฐานลงได้เช่นกัน

แพลทินัมต่างจากทองคำอย่างไรในเชิงการลงทุน?
แพลทินัมมีความผันผวนมากกว่าทองคำ และใช้ในภาคอุตสาหกรรมสูง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ จึงอ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือเก็บมูลค่าในระยะยาว

ควรเทรดทองคำหรือโลหะมีค่าช่วงไหนของปี?
แม้ไม่มีช่วงเวลาที่ “ดีที่สุด” อย่างแน่ชัด แต่มักพบว่าไตรมาสแรกของปีทองคำมีความเคลื่อนไหวสูง เนื่องจากการประกาศแผนนโยบายของธนาคารกลางหลายแห่งในช่วงต้นปี

ราคาโลหะมีค่าส่งผลต่อการเทรด Forex อย่างไร?
แม้จะดูเป็นตลาดคนละประเภท แต่การขึ้นลงของโลหะมีค่า เช่น ทองคำ มักสัมพันธ์กับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักในตลาด Forex ดังนั้นความเคลื่อนไหวของโลหะจึงสามารถส่งผลต่อกลยุทธ์การเทรดค่าเงิน

ทองแดงสะท้อนอะไรเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก?
ทองแดงมักถูกเรียกว่า “โลหะเศรษฐกิจ” เพราะมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรม หากราคาทองแดงร่วงลง อาจเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว


 บทสรุป

ราคาทองคำและโลหะมีค่าทรงตัวในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ ท่ามกลางบรรยากาศที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาการเจรจาการค้าระดับสูงระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเปิดโอกาสให้โลหะมีค่ามีโอกาสขยับขึ้นในระยะสั้น

ทองคำยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่แพลทินัมแสดงศักยภาพเชิงเทคนิคที่โดดเด่นจากอุปทานที่ลดลง ส่วนทองแดงซึ่งเป็นตัวแทนภาคอุตสาหกรรมสะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจจีนในปัจจุบัน

สำหรับนักเทรด Forex การเกาะติดข้อมูลเศรษฐกิจจากสองประเทศยักษ์ใหญ่ควบคู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคของโลหะเหล่านี้ ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสร้างจังหวะการเข้าออกที่แม่นยำมากขึ้นในช่วงตลาดผันผวน